Additive Manufacturing ( 3D printing technology ) ถือเป็นหนึ่งในกุญแจดอกสำคัญของการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุค IIoTs โดยสามารถออกแบบและจำลองชิ้นงานด้วยเนื้อวัสดุที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง ก้าวผ่านไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตปริมาณมากได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อกันบนโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการยกระดับเป็นโรงงานอัจฉริยะได้อย่างแท้จริง
MEGA Tech ฉบับส่งท้ายปี 2021 ขอถือโอกาสพิเศษในการสัมภาษณ์ผู้บริหารทั้ง 4 ท่านที่มีความเชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในโลกแห่งนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ 3 มิติมาอย่างยาวนาน คือ คุณอัครินทร์ เหมอยู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซราไทย จำกัด, คุณวรวรรธน์ วรรธนะโกวินท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เซปทิลเลี่ยน จำกัด, คุณอสมา อนันตอัมพร, กรรมการบริษัท พลวัตร จำกัด และ คุณปณิธาน กอบกุลสุวรรณ กรรมการบริษัท ไทยสากล กรุ๊ป
Additive Manufacturing: 3D Printing technology Individualizing a Product Has Now Become Easier, Agile, Creative, and Cost-Effective
Additive Manufacturing (3D Printing technology) นวัตกรรม 3D Printing เพื่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งสำคัญ
3D Printing เข้ามาช่วยให้การผลิตชิ้นงานที่มีความต้องการจำนวนน้อยหรือปานกลางแต่มีความเป็นลักษณะเฉพาะตัวหรือเฉพาะกลุ่มมากขึ้น, สามารถสั่งผลิตได้ง่ายขึ้นและรวดเร็ว ในราคาที่ถูกลงเมื่อเทียบกับการที่ต้องลงทุนสร้างแม่พิมพ์หรือการเตรียมเครื่องมือเช่น Jig & fixture , Mass customization อีกทั้งช่วยให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำได้ถี่ขึ้น หรือทำให้ผลิตภัณฑ์มีบุคลิกเฉพาะตัวได้ ( individualize product ) และไม่จำเป็นต้องเก็บชิ้นงานในรูปแบบ hardware มากนัก เพราะสามารถเก็บชิ้นงานในรูปแบบ digital ซึ่งสามารถผลิตขึ้นมาได้ตามความต้องการในระยะเวลาอันสั้น ( spare part on demand ) และสามารถเลือกประเภทวัสดุที่นำมาใช้ขึ้นรูปได้หลากหลาย เช่น โลหะ titanium , polymer ที่เป็น carbon fiber ซึ่งเทียบเท่าโลหะเหล็กกล้าแต่มีน้ำหนักเบามาก หรือเลือก polymer ที่ทนอุณหภูมิสูงหรือมีคุณสมบัติป้องกันไฟไหม้ลุกลามได้ กระบวนการขึ้นรูปไม่ก่อให้เกิดวัสดุของเสียเพราะเป็นการเพิ่มเนื้อชิ้นงาน ไม่ใช่การตัดแต่งเนื้องานออก และสามารถลดเนื้องานได้ด้วยการออกแบบให้เป็นเนื้อกลวงแบบรังผึ้งแต่มีความแข็งแรงเช่นเดิม ชิ้นงานที่ได้สามารถลดการประกอบภายหลังได้ด้วยการออกแบบรวมชิ้นงาน เช่น ข้อต่อท่อต่างๆ เป็นต้น
3D Printer แบรนด์ HP นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมได้อย่างลงตัว
เทคโนโลยี “Multi Jet Fusion” สำหรับการขึ้นรูปผงโพลิเมอร์ (polymer powder) โดยการประสานผงวัสดุเชื่อมกันด้วยนวัตกรรมการพ่นน้ำยาไวแสงแบบลงลึก เพื่อทำให้เกิดรูปร่างตามแบบ 3D สร้างขึ้นด้วย computer เมื่อโดนแสงความร้อน infrared ที่มีความละเอียดระดับ นาโน ว็อกโซล (nano voxel = volume + pixel ) ซึ่งจะทำให้ ผงโพลิเมอร์ เชื่อมติดกันขึ้นรูปได้ตามที่ผู้ออกแบบต้องการ ในระดับที่ละเอียดและแนบแน่นมาก นอกจากผงโพลิเมอร์แล้ว ในอนาคตอันใกล้ HP ยังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้ร่วมกับ ผงเหล็ก หรือ ผงโลหะอื่นๆ เรียกว่า “Metal Jet” เพื่อขึ้นรูปผงโลหะ สามารถตอบโจทย์อุตสาหกรรมแต่ละประเภท เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อากาศยาน เรือ รถไฟ สามารถผลิตชิ้นส่วนทั่วไปและซับซ้อนได้รวดเร็วที่มีจำนวนมากขึ้นจากการผลิตดั้งเดิม ในราคาต่อชิ้นที่ถูกกว่าหากมีจำนวนพอเหมาะแบบ just-in-time อีกทั้งยังสามารถกลับไปผลิตชิ้นส่วนที่ตกรุ่นไปแล้วได้ด้วยโดยไม่ต้องเก็บสต็อคสินค้าไว้ , อุตสาหกรรมที่ใช้หุ่นยนต์สร้างเครื่องมือใช้เอง เช่น gripper/finger/adaptor , อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ เช่น การผลิตครอบฟันใสแบบเจาะจงคนไข้ , การผลิตพื้นรองเท้าเสริมเฉพาะตัวคนไข้ ขาเทียมเข้ารูป
บริการหลังการขายที่เป็นเลิศ เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดให้แก่ลูกค้า
“ทีมช่างบริการของเซราไทยได้รับการอบรมโดย HP Singapore SEA – HQ จะเข้าไปดูแลเครื่อง 3D Printer ของลูกค้าเป็นระยะตามกำหนดโดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าได้ใช้เครื่องอย่างเต็มศักยภาพและทำงานได้เต็มที่แบบ 24/7 หากลูกค้าเข้าโปรแกรมสมาชิกของ HP Family แล้ว ทาง HP จะทำการจัดส่งวัสดุสำหรับใช้พิมพ์ 3D มาให้ลูกค้าให้เป็นไปตามแผนการผลิตและจัดหาอะไหล่ที่อยู่ในแผนการบำรุงรักษาโดยต่อเนื่อง รวมถึงกระบวนการ upgrade เครื่องในรูปแบบ software และ hardware เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่อง 3D Printer หรือสามารถผลิตชิ้นงานที่ใช้วัสดุชนิดใหม่ได้มากขึ้น โดยทีมช่างบริการจะทำการ upgrade และบันทึกประวัติเครื่องในรูปแบบออนไลน์และไปที่หน้างาน เพื่อให้ลูกค้าทราบสถานะเครื่องตลอดอายุการใช้งาน” คุณอัครินทร์กล่าวปิดท้ายด้วยความมั่นใจ
No limits to Empowering Your Manufacturing Creativity with Agility and Cost-Efficiency
Additive Manufacturing (3D Printing technology) บทบาทการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งสำคัญ
ปัจจุบันเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ได้เข้ามามีบทบาทอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการผลิตไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือทั่วโลก ซึ่งหากดูจากตลาดการเติบโตของเครื่องพิมพ์ 3 มิติจากทั่วโลกนั้น คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 22.5% ภายในปี 2026 เลยทีเดียว เพราะเหตุนี้ อุตสาหกรรมการผลิตที่แน่นอนว่าต้องการทั้งความคุ้มค่าในการผลิตพร้อมทั้งประสิทธิภาพทางด้านการผลิตที่เต็มเปี่ยม บริษัทชั้นนำด้านการผลิตทั่วโลกจึงหันมาใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่มีความหลากหลายของลูกค้าควบคู่กับความแข็งแรง ความสามารถในการประหยัดพื้นที่เก็บสินค้าคงคลังและการประหยัดพื้นที่ในการผลิต ซึ่งเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นสามารถประหยัดพื้นที่ของการผลิตและสามารถสร้างอะไหล่เครื่องจักรที่มีความเฉพาะตัวเพื่อลดการสต็อกอะไหล่และสามารถผลิตชิ้นส่วนเหล่านั้นได้ภายในเวลาหลักชั่วโมงอีกด้วย พูดได้ว่าเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิตินั้นตอบโจทย์อย่างมากกับอุตสาหกรรมการผลิต
3D Printer แบรนด์ Formlabs นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมได้อย่างลงตัว
หากพูดถึงเครื่องพิมพ์สามมิติยอดนิยม Formlabs ที่ทุกกลุ่มธุรกิจไว้วางใจ ด้วยตัวเครื่องที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย โด่งดังเรื่องความเรียบเนียน ความแม่นยำในการผลิตและเรซิ่นที่มีให้เลือกหลากหลาย Formlabs คือผู้นำด้านเทคโนโลยี SLA ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานผลิตชิ้นงานผิวเรียบเนียนและคุณภาพสูง ช่วยลดต้นทุนการผลิตและควบคุมทุกกระบวนการผลิตได้ด้วยปลายนิ้ว ปัจจุบันได้พัฒนาขีดความสามารถขึ้นมาอีกขั้นโดยพัฒนาเครื่องรุ่นใหม่โดยนำเทคโนโลยี LFS เข้ามาในการผลิตชิ้นงาน ทำให้ชิ้นงานที่ผลิตมีความเรียบเนียนและมีความแม่นยำขึ้น Formlabs ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเปิดตัวสินค้าใหม่ภายใต้ชื่อ “Fuse 1” ที่ใช้เทคโนโลยี SLS ในการผลิตชิ้นงานแบบไร้ซัพพอร์ท เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ชิ้นงานแบบไร้ขีดจำกัด ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ลดต้นทุน ประหยัดเวลา และสามารถนำชิ้นงานไปทดแทนหรือใช้จริงกับส่วนงานต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ Formlabs จะเข้ามาเปลี่ยนการผลิตชิ้นงานด้วยวิธีการเดิมๆให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น และลดต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น “ให้ Formlabs เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จคุณ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่เรามี สามารถรับคำปรึกษา เครื่องพิมพ์ 3 มิติ Formlabs ได้โดยผู้เชี่ยวชาญ Formlabs จาก Septillion และสำหรับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เทคโนโลยีอื่นๆ ทาง Septillion ก็พร้อมให้คำปรึกษาเช่นกัน
บริการหลังการขายที่เป็นเลิศ เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดให้แก่ลูกค้า
“Septillion เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพิมพ์ 3 มิติ มีบุคลากรที่พร้อมให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้งานเครื่องให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ใช้งาน รวมทั้งจำหน่ายวัสดุการพิมพ์ที่ครบครันรวมถึง Accessories ของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ หรือหากผู้ใช้งานประสบปัญหาในด้านการพิมพ์บริษัทก็มีบุคลากรฝ่ายเทคนิคที่ผ่านการอบรบและทดสอบจนได้ใบ Certification จากแบรนด์ Formlabs โดยทีมงานนั้นสามารถปฎิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพและรวดเร็วทำให้ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเราพร้อมจะช่วยคุณแก้ทุกปัญหา ไม่เพียงแค่ด้านบริการหลังการขายเท่านั้น Septillion พร้อมให้คำปรึกษาทั้งก่อนการขายและหลังการขาย สามารถปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเราเชื่อว่าการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผู้ใช้งานหรือผู้ที่สนใจในการพิมพ์ 3 มิติ ได้รับสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุดคือความถูกต้องและยังเป็นหนึ่งในแนวคิดกับวิธีการดำเนินการของบริษัทเรา เพราะในแต่ละรุ่นนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยิ่่งไปกว่านั้น Septillion จำหน่าย 3D printer หลายแบรนด์และหลายเทคโนโลยี ทางเราจึงสามารถให้คำแนะนำปรึกษา พร้อมทั้งสามารถพิมพ์ชิ้นงานทดสอบให้กับลูกค้าได้ จึงเป็นที่ไว้วางใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด” คุณวรวรรธน์กล่าวปิดท้ายด้วยความเชื่อมั่น
OEMs are enabled to truly leverage to the thriving OBMs and compete on the global stage with no sky limit.
Additive Manufacturing (3D Printing technology) บทบาทการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งสำคัญ
3D Printing หรือ Additive Manufacturing เป็นหนึ่งในนวัตกรรม Industry 4.0 ที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตได้จริง แน่นอนว่าการที่ผู้ประกอบการจะปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆจะต้องพิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้เช่น ช่วยลดต้นทุนการผลิต หรือเพิ่มความเร็วในการผลิตได้ ซึ่ง 3D Printing ในปัจจุบันสามารถตอบโจทย์พื้นฐานเหล่านั้นได้อย่างไม่มีข้อสงสัย แต่สิ่งที่พิเศษกว่าเทคโนโลยีอื่นนั่นก็คือ 3D Printing สามารถพาท่านคิดนอกกรอบ ช่วยสร้างไอเดียใหม่ๆ และช่วยจุดประกายให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสินค้าใหม่ๆที่ไม่สามารถผลิตได้ด้วยกระบวนการผลิตปัจจุบันหรือ ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น (Mass Customization) ช่องว่างในตลาดเหล่านี้กำลังถูกเติมเต็มด้วยสินค้าที่มาจาก 3D Printing และจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเปลี่ยนจากผู้รับจ้างผลิต (OEM) มาเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าของตัวเองได้
3D Printer แบรนด์ Desktop Metal นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมได้อย่างลงตัว
Desktop Metal คือหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตลาด Additive manufacturing ปัจจุบัน Desktop Metal เป็นผู้นำที่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดโดยการรวมธุรกิจกับบริษัทชั้นนำต่างๆอาทิเช่น ExOne และ EnvisionTec เพื่อทำให้เทคโนโลยี 3D printing สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และยกระดับตลาดให้กลายเป็น AM 2.0 ที่สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตได้อย่างแท้จริงตั้งแต่การทำ Prototype, Pilot runs จนถึงการผลิตในระดับ Mass production วันนี้ Desktop Metal มี Solutions ที่ครอบคลุมวัสดุถึง 225 ชนิดในกลุ่มโลหะ, composite, polymers, elastomers, ไม้ และ วัสดุชีวภาพ และเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ได้แทบทุกอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น ชิ้นส่วนยานยนต์, ชิ้นส่วนอากาศยาน, ชิ้นส่วนเครื่องจักร, เครื่องมืออุตสาหกรรม, เครื่อมือแพทย์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องประดับและของตกแต่ง เป็นต้น
บริการหลังการขายที่เป็นเลิศ เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดให้แก่ลูกค้า
“หลายๆ คนอาจจะคิดว่า 3D printing คือการกดปุ่มเดียวแล้วจบเหมือนหนัง Sci-fi แต่ในความเป็นจริงแล้ว 3D printing ก็เหมือนเทคโนโลยีการผลิตอื่นที่ต้องมีการศึกษาเรียนรู้ และสั่งสมประสบการณ์จนเกิดเป็นความชำนาญและพัฒนาไปเป็น Know how เช่นกัน ทางไทยสากลมีทีม Application engineer ที่สามารถให้คำแนะนำได้ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ และการตั้งค่า Parameters ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ที่ลูกค้ามีให้เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ทางไทยสากลยังมีบริการในเรื่อง Pre-process และ Post-process ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ 3D scanning เพื่อสร้างไฟล์ CAD ในการปริ้น หรือเพื่อตรวจสอบชิ้นงานหลังการปริ้นท์เพื่อวัดเทียบ CAD รวมถึงในส่วนของกระบวนการ Dry electropolishing เพื่อขัดเก็บผิวชิ้นงานให้เรียบเงา ดังนั้นวันนี้ไทยสากลจึงเป็น One-stop solution ให้กับ Additive manufacturing อย่างแท้จริง” คุณปณิธานกล่าวปิดท้ายเพื่อให้ผู้อ่านมั่นใจ Thaisakol
The unparalleled advantage of 3D printing technologies lies in just-in-time shaping flexibity.
Additive Manufacturing (3D Printing technology) นวัตกรรม 3D Printing เพื่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งสำคัญ
จุดเด่นของเทคโนโลยี 3D Printing คือความสามารถในการ “ผลิตชิ้นส่วนรูปทรงอะไรก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ณ จุดที่ต้องการได้แบบทันที” อุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีซัพพลายเชนที่ยาวและซับซ้อนมาก บริษัทผู้ผลิตต้องจ้างผลิตชิ้นงานจากซัพพลายเออร์ ซึ่งอาจมีโรงงานอยู่ต่างประเทศ มีหลากหลายขั้นตอนกว่าจะได้ชิ้นงานที่ต้องการ ตั้งแต่การคัดเลือกซัพพลายเออร์, การขออนุมัติสั่งผลิต จนถึงการขนส่งชิ้นงานข้ามประเทศ ปัญหาที่ผู้ผลิตทั่วโลกเจอในช่วงวิกฤติ COVID-19 คือโรงงานหลายแห่งปิดตัวลง ไม่สามารถผลิตงานส่งลูกค้าได้ ทำให้เกิด Supply shock หรือสินค้าขาดตลาด ตั้งแต่อุปกรณ์ป้องกัน PPE จนถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์ จึงเป็นความท้าทายอย่างมากในการผลิตสินค้าให้ทันต่อความต้องการของตลาด เครื่อง 3D Printer เปรียบเสมือนโรงงานขนาดจิ๋ว ที่เราขนย้ายไปตั้งไว้ที่ไหนก็ได้ แล้วสามารถกดปุ่มให้มันผลิตงานให้เราได้ทันทีโดยแทบไม่ต้องใช้แรงงานคน ดังนั้นผู้ผลิตที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น 3D Printing จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต ลดปริมาณของเสีย และลดการใช้คนได้อย่างมหาศาล สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ยังพึ่งพาวิธีการผลิตแบบเดิม
3D Printer แบรนด์ Markforged นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมได้อย่างลงตัว
โซลูชั่น 3D Printing ของ Markforged ออกแบบมาสำหรับการใช้งานจริงในอุตสาหกรรม ซึ่งแตกต่างจากผู้ผลิต 3D Printer ส่วนใหญ่ซึ่งโฟกัสที่การผลิตงานโมเดลต้นแบบ และเป็นบริษัทแรกในโลกที่พัฒนาเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่สามารถเสริมวัสดุ Carbon Fiber ลงไปในชิ้นงานได้ โดยให้ความแข็งแกร่งเหมือนโลหะแต่น้ำหนักเบาเหมือนพลาสติก ปัจจุบันลูกค้าที่ใช้ 3D Printer ของ Markforged เกิน 70% ใช้วัสดุ Carbon Fiber ผลิตชิ้นงานที่ใช้ทดแทนเหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งสามารถลดต้นทุนและเวลาในการผลิตชิ้นส่วนได้เฉลี่ยเกิน 80% นอกจากนี้ Markforged ยังเป็นผู้นำเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติวัสดุโลหะที่ใช้งานง่าย มีความเสถียรสูง ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเครื่องพิมพ์โลหะแบบวัสดุผง 5-10 เท่า ทั้งหมดนี้ทำให้ Markforged เป็นโซลูชั่น 3D Printer เกรดอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ผลิตยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทใน 70 ประเทศทั่วโลก ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อากาศยาน ออโตเมชั่น อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และอื่นๆบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดให้แก่ลูกค้า
บริการหลังการขายที่เป็นเลิศ เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดให้แก่ลูกค้า
“บริษัทพลวัตรดำเนินธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมไทยมานานกว่า 30 ปี มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีออโตเมชั่น ระบบส่งกำลัง และ Additive Manufacturing เรามุ่งมั่นที่จะเป็น Solution Partner ให้กับลูกค้า ทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการประยุกต์ใช้ 3D Printing ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แนวทางในการเลือกใช้วัสดุ การออกแบบชิ้นส่วนที่ดึงความสามารถของเครื่อง 3D Printer มาใช้แบบเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าสามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างแท้จริง และมีผลลัพธ์จากการลงทุนที่เป็นบวก นอกจากนี้ทีมงาน Engineer ของเราพร้อมให้บริการถึงที่และทุกช่องทาง ตั้งแต่การฝึกอบรมให้ลูกค้าพร้อมใช้งานได้ในระยะเวลารวดเร็วที่สุด รวมถึงการซ่อมบำรุงเครื่องจักรตลอดอายุการใช้งาน” คุณอสมากล่าวปิดท้ายด้วยรอยยิ้มแห่งความอบอุ่น
Article by: MEGA TECH
Ref : Cerathai Co., Ltd. https://www.cerathai.com/
Palawatr Co., Ltd. https://www.palawatr.co.th/
Thaisakol Group Co., Ltd. https://www.thaisakolgroup.com/
Septillion Co., Ltd. https://www.septillion.co.th/