MEGA Tech ได้รับเกียรติสัมภาษณ์พิเศษ คุณยาสุฮิโร คอนโดะ (Yasuhiro Kondo) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท AZAPA Co., Ltd. ผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยเฉพาะระบบโมบิลิตี้ (Mobility) และโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับการพึ่งพาพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางธุรกิจระดับโลก
ในการสนทนาเชิงลึกครั้งนี้ คุณยาสุฮิโร คอนโดะ เล่าถึงประวัติความเป็นมาของบริษัทอย่างเป็นกันเองว่า “AZAPA ก่อตั้งปี พ.ศ. 2551 เริ่มจากบริษัทวิจัยและพัฒนาด้านยานยนต์ จนเติบโตขึ้นเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับในฐานะ ‘Tier 0.5’ รายแรกและรายเดียวในประเทศญี่ปุ่น หมายถึงการพัฒนาและออกแบบระบบควบคุมและฟังก์ชันของรถยนต์ในระดับที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโดยรวม ไม่ใช่เพียงการพัฒนาชิ้นส่วนแยกย่อยเหมือนผู้ผลิตชิ้นส่วนทั่วไป AZAPA ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถขยายขอบเขตการดำเนินงานไปสู่การออกแบบและพัฒนารถยนต์ขั้นสูง รวมถึงการจัดตั้งระบบการผลิตที่พร้อมรองรับการผลิตในระดับ Mass Production ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในประเทศญี่ปุ่น AZAPA พัฒนารถรุ่นพิเศษ (Limited Edition) จำนวนหลายร้อยคัน ตั้งแต่การออกแบบ พัฒนา ทดสอบ ไปจนถึงการผลิตจริง ด้วยกระบวนการที่ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละขั้นตอน และตอบสนองความต้องการทั้งหมดของผู้ผลิตในขณะเดียวกัน AZAPA ยังได้ขยายขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีไปสู่การพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติและเทคโนโลยีไร้คนขับ สำหรับเครื่องจักรก่อสร้างและเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงการออกแบบระบบบูรณาการที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของยานยนต์และระบบอุตสาหกรรมในทุกมิติ เพื่อมุ่งสู่การสร้างอนาคตของ Mobility และ Smart Manufacturing อย่างยั่งยืน”
AZAPA กับภารกิจยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่ยุค Smart Manufacturing
การขยายธุรกิจของ AZAPA ในประเทศไทยนับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นกำลังเผชิญแรงกดดันจากรถยนต์ไฟฟ้าจีน (EV) ซึ่งเป็นตัวพลิกเกมที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้และจะพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสได้อย่างไร? ประการแรก AZAPA มุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ระบบการผลิตอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายและความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม ประการที่สอง AZAPA ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกภาคส่วนของธุรกิจ เพื่อให้สอดรับกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของสังคมดิจิทัลในประเทศไทย การบูรณาการเทคโนโลยีด้าน IT เข้ากับกระบวนการผลิตจะช่วยยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล และพร้อมแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างแท้จริง AZAPA ไม่เพียงนำเสนอเทคโนโลยีเฉพาะด้าน แต่ยังมุ่งพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบครบวงจรที่สามารถอัปเดตและยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยตนเอง สร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของภูมิภาคอาเซียน
ขับเคลื่อนอนาคตยานยนต์ด้วยนวัตกรรมที่ยั่งยืนและเข้าใจตลาด
แม้ว่าเราจะเห็นด้วยกับการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว แต่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เราต้องพิจารณาควบคู่ไปกับความต้องการของตลาดและทิศทางเศรษฐกิจที่ต้องเติบโตไปพร้อมกัน นวัตกรรมที่มีคุณค่าในวันนี้ จึงไม่ใช่เพียงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดเท่านั้น แต่ต้องเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และไม่ทิ้งผู้ใช้งานไว้ข้างหลัง
การลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิลอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อเรามีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สามารถเชื่อมโยงกับระบบคมนาคมอย่างมีประสิทธิภาพ คือหัวใจของการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และเป็นเหตุผลที่อยากนำเสนอแนวทางการพัฒนา นวัตกรรมพลังงานหมุนเวียนที่สามารถบูรณาการเข้ากับระบบการเดินทางในอนาคตได้อย่างสมบูรณ์
รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนกำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ ด้วยกลยุทธ์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ากับกระบวนการผลิตที่มีต้นทุนต่ำอย่างชาญฉลาด ผมเชื่อว่าญี่ปุ่นควรกลับมาพิจารณาศักยภาพของยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้อย่างรอบคอบ และนำบทเรียนดังกล่าวมาปรับแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ จากการเปลี่ยนมุมมองจาก “สิ่งที่เราผลิต” ไปสู่ “คุณค่าที่เรามอบให้แก่ลูกค้า”
การปรับกลยุทธ์นี้ไม่เพียงช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับกระบวนการผลิตของโรงงานญี่ปุ่นในประเทศไทย ให้สร้างมูลค่าเพิ่มแก่สังคมไทยในระดับท้องถิ่นอย่างแท้จริง หากญี่ปุ่นสามารถก้าวข้ามกรอบความคิดเดิมได้ ผมมั่นใจว่า ญี่ปุ่นจะยังคงเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำของโลกทั้งด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
ยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะจากญี่ปุ่น
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คือเทคโนโลยีขั้นสูงที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถผลิตได้ในต้นทุนที่เข้าถึงได้ง่าย และกำลังกายเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกในอนาคต ทุกประเทศต่างมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและลดการพึ่งพาต่างชาติ ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเร่งสร้างระบบการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และขยายการส่งออกสู่ตลาดอาเซียนในระยะยาว
ศักยภาพที่แท้จริงของประเทศไทย ไม่ได้อยู่เพียงการเป็นฐานการผลิตให้กับบริษัทต่างชาติเท่านั้น แต่อยู่ที่การสร้างความสามารถในการ “ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีของตนเอง” เพื่อยกระดับสู่การเป็นประเทศผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่มีนวัตกรรมเป็นของตนเองอย่างแท้จริง AZAPA พร้อมสนับสนุนเป้าหมายนี้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยความเชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนาระบบยานยนต์แบบบูรณาการ (Integrated System Design) ที่สามารถผสานเทคโนโลยีดิจิทัลและ IT เข้ากับระบบการทำงานของรถยนต์ได้อย่างไร้รอยต่อ แตกต่างจากแนวทางการพัฒนาแบบแยกส่วนในอดีต แนวทางนี้ช่วยให้เกิดการพัฒนาเชิงระบบอย่างสมบูรณ์ และนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะขนาดขององค์กร แต่เกิดจากความสามารถเฉพาะทางในระดับลึก ซึ่งมีเพียงบริษัทระดับ “Tier 0.5” อย่าง AZAPA เท่านั้น ที่สามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านการออกแบบระบบ การควบคุม และการผลิต เข้าด้วยกันได้อย่างครบวงจร เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างยั่งยืน
AZAPA @ SIMTEC แบ่งปันวิสัยทัศน์และแผนงานเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไอทีไทย
ก่อนจบการสนทนา คุณยาสุฮิโร คอนโดะ ได้กล่าวเน้นย้ำว่า “จากการสัมมนาที่ SIMTEC ครั้งนี้ AZAPA มุ่งมั่นที่จะแบ่งปันวิสัยทัศน์และแผนงานเชิงกลยุทธ์ สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไอทีของประเทศไทย โดยนำเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะและโซลูชั่นพลังงานสะอาด มาประยุกต์ใช้ร่วมกับภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างบูรณาการ การดำเนินงานดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องกันภาวะการลดบทบาทของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัว พร้อมทั้งเร่งกระบวนการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้า สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจยุคดิจิทัล หาก AZAPA ได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไอทีและโรงงานอัจฉริยะ
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะไม่เพียงช่วยยกระดับการผลิตของผู้ประกอบการญี่ปุ่นในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายไปสู่ความร่วมมือด้านการผลิตระดับโลก ส่งเสริมการเติบโตและนวัตกรรมอย่างก้าวกระโดด ด้วยเหตุนี้ การแต่งตั้ง AZAPA ให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอุตสาหกรรมและไอทีของประเทศไทย จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่และสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน”


Article by: MEGA Tech & AZAPA CO., LTD.<< Click Here










