สำหรับผู้ให้บริการด้านการตัดเฉือนโลหะ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่ตั้งมานานและมีพนักงานหลายร้อยคนที่ให้บริการผลิตชิ้นงานปริมาณต่อล็อตสูง หรือเป็นโรงงาน SME ที่ปริมาณผลิตต่อล็อตไม่สูงแต่ต้องสลับการขึ้นงานบ่อย หรือโรงงานห้องแถวที่เน้นให้บริการสร้างงานต้นแบบ การตอบสนองความต้องการลูกค้าด้วยการผลิตรวดเร็วและสามารถจัดส่งชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูงให้ลูกค้า เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในธุรกิจนี้ เนื่องจากชิ้นส่วนที่ใช้งานในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มไปสู่วัสดุเหล็กชุบแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ การหาเครื่องมือที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น การก้าวทันแนวโน้มของเทคโนโลยีเครื่องมือตัดช่วยรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจนี้ และด้วยกระแสรักษ์โลกที่มาแรง เราเจาะลึกว่าเครื่องมือนวัตกรรมล่าสุดต้องมีส่วนช่วยให้โลกดีขึ้นด้วยในด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร
ใช้เหล็กชุบแข็งมากขึ้นในงานชิ้นส่วนรถยนต์
เหล็ก โดยเฉพาะเหล็กชุบแข็ง ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในการผลิตรถยนต์ และพบได้ในหลายส่วนของรถยนต์ในปัจจุบัน ตัวอย่างของเหล็กที่ใช้ในชิ้นส่วนรถยนต์ ได้แก่ เหล็กกล้าโลหะผสมต่ำที่มีความแข็งแรงสูง เหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงขั้นสูง และเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ เหล็กกล้าเหล่านี้ถูกใช้เพื่อยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยานยนต์ เหล็กกล้าผสมต่ำที่มีความแข็งแรงสูงจะใช้ในทำตัวถัง ในขณะที่เหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงขั้นสูงจะใช้ในส่วนประกอบของระบบกันสะเทือน ส่วนของโรลบาร์ รวมถึงอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ความแข็งที่เพิ่มขึ้นย่อมตามมาด้วยความต้านทานต่อการสึกหรอที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้การตัดเฉือนหรือขึ้นรูปยากขึ้น ความยากง่ายในการตัดของวัสดุและความสามารถในการตัดเฉือนของเครื่องมือตัด จะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับความแข็งของวัสดุแต่ละชนิด สำหรับวัสดุที่แข็งมาก เช่น เหล็กชุบแข็ง เครื่องมือตัดที่เคลือบเพชรจึงเป็นตัวเลือกที่ดี เช่นเดียวกับวัสดุคาร์ไบด์และเซรามิก เครื่องมือตัดเหล่านี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตัดเฉือนด้วยความแข็งแกร่ง มั่นคง และแม่นยำสูงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือที่ออกแบบรูปทรงอย่างเหมาะสม ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญที่จะทำให้งานตัดเฉือนโลหะแข็งด้วยเครื่อง CNC ประสบความสำเร็จ
แนวโน้มของเครื่องมือตัด
ในปัจจุบันมีการใช้วัสดุก้าวหน้าในชิ้นส่วนรถยนต์มากขึ้น แนวโน้มที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมเครื่องมือตัดโลหะ ซึ่งได้แก่
1. การนำวัสดุขั้นสูงมาใช้ การใช้วัสดุขั้นสูง เช่น เซรามิก คาร์ไบด์ และคิวบิกโบรอนไนไตรด์ในเครื่องมือตัดโลหะเป็นแนวโน้มที่สำคัญ วัสดุเหล่านี้มีความแข็งและทนความร้อนได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องมือเหล็กความเร็วสูงแบบเดิม ซึ่งช่วยรักษาความคมและรูปทรงของเครื่องมือเมื่อตัดเฉือนด้วยความเร็วสูงและมีอุณหภูมิสูง คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้สามารถตัดเฉือนชิ้นงานด้วยความเร็วสูงและแม่นยำสูง โดยมีการสึกหรอน้อยลง
2. การเคลือบขั้นสูงเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ การเคลือบเครื่องมือตัดด้วยนวัตกรรมขั้นสูงสามารถยืดอายุของเครื่องมือในขณะที่ยังรักษาประสิทธิภาพของมันก็เป็นอีกแนวโน้มที่สำคัญ สารเคลือบที่ได้รับการยอมรับ เช่น ไทเทเนียมไนไตรด์ ไทเทเนียมอะลูมิเนียมไนไตรด์ และคาร์บอนคล้ายเพชร ถูกนำมาใช้สำหรับป้องกันการสึกหรอของเครื่องมือ สารเคลือบเหล่านี้ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือโดยลดการเสียดทานและความร้อนในระหว่างกระบวนการตัด
3. การตัดเฉือนความเร็วสูง (HSM) แน่นอนว่าความเร็วเป็นสิ่งสำคัญในงานผลิต เทคนิคการตัดเฉือนความเร็วสูงกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโลหะการโดยการลดเวลาที่ต้องใช้ในการตัดเฉือนหรือขึ้นรูปชิ้นงาน ด้วยความเร็วรอบของสปินเดิลที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันและอัตราการป้อนที่แม่นยำขึ้น HSM ช่วยเพิ่มอัตราการกัดเนื้อวัสดุได้อย่างมีนัยสำคัญ ช่วยเร่งการผลิตให้เร็วขึ้น
4. ความยั่งยืน ความพยายามในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแพร่หลายไปทั่วทุกอุตสาหกรรม รวมถึงงานโลหะการ เครื่องมือตัดที่ช่วยลดเวลาการทำงานลง ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ ลดชิ้นงานเสีย และลดปริมาณของเสียต่าง ๆ ซึ่งนำไปสู่การลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้การรีไซเคิลเครื่องมือที่ใช้แล้วและการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในการผลิตเครื่องมือ ก็ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน
5. การบูรณาการกับเทคโนโลยีดิจิทัล การบูรณาการเครื่องมือตัดและเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น อินเตอร์เน็ตออฟธิง (IoT) เป็นแนวโน้มที่นำไปสู่โรงงานอัจฉริยะ การติดตั้งเซ็นเซอร์เข้าไปในเครื่องมือหรือระบบเครื่องมือ และติดตั้งการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายในอุตสาหกรรม จะทำให้ช่างเทคนิคสามารถตรวจติดตามการสึกหรอและประสิทธิภาพของเครื่องมือได้แบบเรียลไทม์ จากทุกที่และทุกเวลา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้เพื่อปรับสภาพการตัดให้เหมาะสม รวมถึงคาดการณ์อายุใช้งานของเครื่องมือได้
เครื่องมือขั้นก้าวหน้าเพื่อโลกที่ดีกว่า
เนื่องจากกระแสการรับรู้และใส่ใจต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของสาธารณชนเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นข้อกำหนดสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตทั้งหลาย โดยมีอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นผู้นำ ด้วยเหตุนี้ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จึงใช้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น การลดของเสียทางอุตสาหกรรมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยการลดการใช้พลังงาน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ผู้ผลิตเครื่องมือตัดจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการวิจัยและพัฒนา เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการตัดและช่วยให้ผู้ให้บริการโลหะการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้
เปิดตัว Coated SUMIBORONTM BNC2105
เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กที่มีความแข็งสูงในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น จึงมีความต้องการความแม่นยำด้านมิติและคุณสมบัติพื้นผิวที่ยอดเยี่ยมของชิ้นงานที่มีการตัดขึ้นรูปมากขึ้น อีกทั้งผู้ผลิตยังต้องปรับปรุงการเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อจัดการกับความหลากหลายของโมเดลชิ้นงานและปริมาณคำสั่งการผลิต ขณะเดียวกันก็ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมและข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อม
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ Sumitomo Electric Industries จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องมือตัดรุ่นใหม่ Coated SUMIBORON BNC2105 สำหรับการตัดเฉือนเหล็กกล้าชุบแข็ง นอกเหนือจาก BNC2125 ที่ออกแบบสำหรับงานตัดเฉือนทั่วไปและ BNC2115 สำหรับงานตัดเฉือนที่มีความแม่นยำสูงแล้ว Coated SUMIBORONTM BNC2105 ยังได้รับการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีการเคลือบใหม่และวัสดุซับสเตรท CBN ที่ปรับปรุงใหม่ ส่งผลให้ได้เกรดเครื่องมือตัดที่ทนทานต่อการสึกหรอสูง ซึ่งเหมาะสำหรับการตัดเฉือนความเร็วสูงและขบวนการการเก็บผิวสำเร็จความเร็วสูง Sumitomo ยืนยันอย่างมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เครื่องมือตัดรุ่นล่าสุดนี้ จะให้ความสม่ำเสมอในด้านคุณภาพการตัดเฉือนและยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือตัดสำหรับการตัดเฉือนความเร็วสูงในขั้นตอนเก็บผิวสำเร็จ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยรวม
เครื่องมือตัด Coated SUMIBORONTM BNC2105 ได้รับการออกแบบสำหรับการตัดเฉือนความเร็วสูงและมีความทนทานต่อการสึกหรอดีเยี่ยม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้กับเหล็กกล้าชุบแข็ง เครื่องมือนี้มีการเคลือบผิวด้วย TiAlN แบบหลายชั้นและมีความหนามากขึ้น ทำให้เครื่องมือทนทานต่อการสึกหรอสูงจึงมีอายุการใช้งานยาวนาน การเคลือบแบบใหม่นี้เมื่อรวมกับวัสดุซับสเตรท CBN ที่ทนทานต่อการสึกหรอสูงซึ่งใช้สารยึดเกาะ TiCN ที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งขึ้นชื่อในด้านการต้านทานความร้อนที่ยอดเยี่ยม ผลลัพธ์โดยรวมคือเครื่องมือตัดที่ทำงานได้อย่างมั่นคงและมีอายุใช้งานยาวนานสำหรับการตัดเฉือนความเร็วสูง
สรุป
เนื่องจากความต้องการยานยนต์ที่สมรรถนะและความปลอดภัยสูง ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมโลหะการซึ่งอยู่แถวหน้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีจึงปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของการผลิตที่ทันสมัย หัวข้อและแนวโน้มที่กล่าวถึงข้างต้นได้แสดงให้เห็นว่าภาคส่วนผู้ให้บริการโลหะการจะต้องมีความคล่องตัวเพียงใด ซึ่งไม่เพียงแต่มุ่งหวังที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการตัดเฉือนของตนเท่านั้น แต่ยังตอบสนองต่อแนวโน้มและความท้าทายที่กว้างขึ้น เช่น สิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เมื่อแนวโน้มเหล่านี้ดำเนินไป ผู้ให้บริการโลหะการจำเป็นต้องปรับปรุงทั้งด้านความแม่นยำและประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ความสามารถของเครื่องมือตัดที่ผู้ให้บริการโลหะการเลือก ถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการจะสามารถรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้อย่างมั่นใจ
Article by: MEGATech & Sumipol Corporation Limited << Click here