บรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันมีความสำคัญต่อสภาพแวดล้อมของโลกรองลงมาจากการใช้พลังงาน งานวิจัยไม่นานมานี้พบว่า 34% ของการเกิดก๊าซเรือนกระจกเกิดจากภาคอุตสาหกรรมอาหาร โดยบรรจุภัณฑ์เพียงอย่างเดียวคิดเป็นมากกว่า 60 ล้านตันของการปล่อย CO2 ทุกปี ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่ปี 1950 ถึง 2015 การผลิตพลาสติกของโลกเติบโตมากกว่า 200 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านตันเป็นกว่า 7.8 พันล้านตันต่อปี โดย 59% ของทั้งหมดมาจากสินค้าอุปโภคบริโภคและบรรจุภัณฑ์

Source: Goldman Sachs, American Association for the Advancement of Science
บริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกหลายแห่งกำลังเดิมพันว่าพลาสติกจะได้ไปต่อในอนาคตก็ต่อเมื่อเราสามารถจัดการกับขยะพลาสติกได้ เหตุนี้เองที่บริษัทและผู้ค้าปลีกทุ่มเทที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของตนสามารถรีไซเคิล อย่างไรก็ตามขยะพลาสติกของผู้บริโภคเพียง 45% เท่านั้นที่ถูกรีไซเคิลหรือใช้เป็นพลังงานขยะ

Source: American Association for the Advancement of Science, Bain & Co.
มีวิธีการที่สุดโต่งโดยวิธีที่ว่านี้คือคือการถอดประกอบสร้างห่วงโซ่คุณค่าใหม่เพื่อใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ให้น้อยลง เช่น สีฟันยูนิลีเวอร์แบบเม็ดในบรรจุภัณฑ์แบบใช้ซ้ำได้แทนที่หลอดพลาสติก หรือไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เม็ดสบู่ของ Procter & Gamble ซึ่งจะกลายสภาพเป็น สบู่ล้างมือ แชมพู หรือน้ำยาซักผ้าก็ต่อเมื่อผู้บริโภคเติมน้ำเท่านั้น บรรจุมาในบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพซึ่งใช้พื้นที่น้อยลง 70% เนื่องจากไม่มีน้ำในบรรจุภัณฑ์ น้ำหนักลดลง 80% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบดั้งเดิม และลดการปล่อยมลพิษในการขนส่งได้ถึง 75% บริษัท Think Loop การจัดส่งของใช้ในครัวเรือนและอาหารของ จัดส่งสินค้าและอาหารไปยังที่พักลูกค้าโดยใช้บรรจุภัณฑ์และภาชนะแก้วและโลหะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายร้อยครั้ง ตัวอย่างเช่นการจัดส่งไอศกรีม Haagen-Dazs ในภาชนะสแตนเลสเป็นต้น

Source: Solving the Consumer Plastic Puzzle, Bain & Co.
หนึ่งในตัวเลือกที่ดูแล้วมีอนาคตมากที่สุดคือ พลาสติกชีวภาพ ซึ่งเป็นพลาสติกทางเลือกที่ทำจากวัสดุหมุนเวียนและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วของการผลิตและการนำไปใช้ทำให้มีผู้ประเมินมูลค่าตลาดพลาสติกชีวภาพว่าจะมีมูลค่ากว่า 34 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 ก็ตาม แต่พลาสติกชีวภาพมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของการบริโภคพลาสติกทั่วโลกมากกว่า 390 ล้านตันต่อปี แม้จะซบเซาในปี 2020 สาเหตุหลักมาจากโควิด-19 การผลิตพลาสติกทั่วโลกเพิ่มขึ้นในปี พัฒนาการของตลาดที่เกิดขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากทั้งความต้องการที่เพิ่มขึ้นและผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

Source: Bioplastics Market Development Update 2022, European Bioplastics

Source: Plastics Europe 2022
คาดว่ากำลังการผลิตพลาสติกชีวภาพทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างแบบก้าวกระโดด ประมาณ 2.23 ล้านตันในปี 2022 เป็นประมาณ 6.3 ล้านตันในปี 2027 พลาสติกชีวภาพตอบสนองทดแทนวัสดุพลาสติกทั่วไปได้เกือบทุกชนิดการใช้งาน เนื่องจากการพัฒนาโพลิเมอร์อย่างแข็งแกร่ง เช่น PHA (Polyhydroxyalkanoates), polylactic acid (PLA) และ PAs (polyamides) รวมถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Polypropylene (PP) กำลังการผลิตจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมากภายในห้าปีข้างหน้า ส่งผลต่อความนิยมใช้พลาสติกชีวภาพในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และสิ่งทอ อย่างไรก็ตาม บรรจุภัณฑ์ยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด โดยคิดเป็น 48% หรือ 1.07 ล้านตันของตลาดพลาสติกชีวภาพทั้งหมดในปี 2022

Source: Plastics Europe 2022
ตามรายงานของ Mordor Intelligence ยุโรปคือภูมิภาคผู้ครองตลาดพลาสติกชีวภาพ โดยความต้องการส่วนใหญ่มาจากเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสหราชอาณาจักร อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของเยอรมนีมีลักษณะเด่นคือภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งประกอบด้วยบริษัทมากกว่า 6,000 แห่ง รายได้ในตลาดอาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ประมาณ 3,222 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 ตลาดคาดว่าจะเติบโตปีละ 6.83% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ 2022 – 2027 อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของอิตาลีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีบริษัทบรรจุภัณฑ์ทั้งรายใหญ่และรายย่อยภายในประเทศเกือบ 7,000 ราย ธุรกิจค้าปลีกแบบซูปเปอร์มาร์เก็ตที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นและพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์ในประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การส่งออกยังเพิ่มความต้องการวัสดุบรรจุภัณฑ์อีกด้วยเช่นกัน

Source: Mordor Intelligence
Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor & MEGA Tech