เชื่อเถอะว่าในทศวรรษหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของศตวรรษนี้ อันเป็นผลรวมมาจากแนวโน้มของอุตสาหกรรม 4 ประการ ได้แก่ ยานยนต์ไร้คนขับ การเชื่อมต่อระบบการสื่อสาร การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และการขับขี่แบบแบ่งปัน (ACES) ส่งผลต่อพฤติกรรมและรูปแบบของการเดินทางของผู้ขับขี่ที่เปลี่ยนไป ทัศนคติที่มีต่อการเดินทางเชิงคุณค่า ก่อเกิดนวัตกรรมทางรูปแบบการดำเนินธุรกิจ และเกิดผู้เล่นหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ แนวโน้มทั้งหมดเหล่านี้เกิดจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์.

คาดว่าตลาดยานยนต์ที่ software-defined vehicles ทั่วโลกจะเติบโตจาก 34.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 เป็น 81.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2027 ที่อัตรา CAGR 19% ยานพาหนะไร้คนขับและกึ่งไร้คนขับเป็นที่นิยมมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากความปลอดภัยของผู้โดยสารและคนเดินถนนที่ขึ้น พัฒนาการนี้เองที่จะเป็นปัจจัยส่งเสริมการเติบโตของตลาดที่สำคัญที่สุด การเปลี่ยนโฟกัสจากฮาร์ดแวร์ไปสู่ซอฟต์แวร์เป็นแนวทางที่จะเกิดประโยชน์อเนกอนันต์แต่อุตสาหกรร ตัวอย่างเช่น นวัตกรรมทางซอฟต์แวร์ของ Tesla ที่ซ่อมบำรุงระบบแบตเตอรี่ผ่านการอัปเดตแบบ over-the-air (OTA)

Source: DOT, AcceleratingBiz
สำหรับการพิจารณาระดับระบบอัตโนมัติของยานพาหนะนั้น กระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกาได้นำกรอบการทำงานอัตโนมัติสำหรับยานยนต์บนถนนของ SAE International เพื่อเร่งการพัฒนานโยบายการกำกับดูแล ติดตามการพัฒนายานยนต์ไรคนขับ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมกับผู้ผลิตรถยนต์
ขณะที่คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 89 ล้านคัน จากปี 2019 ถึงปี 2030 (สูงกว่า CAGR เพียง 1 เปอร์เซ็นต์) แต่สำหรับตลาดซอฟต์แวร์ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์นั้นคาดว่าจะเติบโตเกือบสี่เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน สำหรับยอดขายหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) และหน่วยควบคุมโดเมน (DCU) รวมกันคาดว่าจะสูงถึง 144 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2030 ส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองคือการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยรายได้มีศักยภาพที่จะเติบโตถึง 83 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2030 และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นจะเป็นตลาดส่วนประกอบที่เติบโตเร็วที่สุด CAGR ที่ 23 เปอร์เซ็นต์จนถึงปี 2030 สำหรับเซ็นเซอร์คาดว่าจะเติบโตในอัตราทบต้นที่ 7 เปอร์เซ็นต์ต่อปีทั้งในยานพาหนะไร้คนขับและกึ่งไร้คนขับ ทั้งหมดนี้เกิดจากแรงหนุนมาจากความนิยมการใช้รถยนต์ EV

คาดว่าตลาดซอฟต์แวร์ยานยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจาก 31 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 เป็นประมาณ 80 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2030 หรือคิดเป็น CAGR มากกว่า 9 เปอร์เซ็นต์ ซอฟต์แวร์ยานพาหนะไร้คนขับและกึ่งไร้คนขับจะเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตนี้และจะกินส่วนแบ่งเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดซอฟต์แวร์ภายในปี 2030 อินโฟเทนเมนท์ การเชื่อมต่อ การรักษาความปลอดภัย และบริการเชื่อมต่อจะเติบโตร่วมกันไปพร้อมกับตลาดซอฟต์แวร์ ซึ่งจะกลายเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองภายในปี 2030 ที่เป็นเช่นนี้เพราะระบบบ การชำระเงินในรถยนต์ บริการตามตำแหน่ง และการสตรีมเพลงล้วนเป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาด

ตลาดซอฟต์แวร์ยานยนต์และส่วนประกอบและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แผ่ขยายตัวโดยมีการเปลี่ยนแปลงในระดับเซ็กเมนต์ที่สำคัญซึ่งได้รับแรงหนุนจากกระแสของเทรนด์ยานยนต์ ACES นอกจากนี้เทรนด์ซอฟต์แวร์แบบรวมศูนย์และสถาปัตยกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะส่งแรงต่อตลาดขยายตัวไปจนถึงปี 2030 (คาดการณ์ที่อัตราการเติบโตต่อปีที่ร้อยละ 7)

โดยสรุปแล้ว AI ในตลาดยานยนต์ตามรายงาน Global Market Insights มีมูลค่าเกิน 6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 และคาดว่าจะขยายตัวที่มากกว่า 55% CAGR ในช่วงปี 2023 – 2030 ยานยนต์ไร้คนขับที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลกได้ขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เทคโนโลยี Advance Driver Assist System (ADAS) ระดับ 2 กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับระบบ ADAS ที่ช่วยการตัดสินใจในขับขี่อย่างชาญฉลาด เป็นปัจจัยส่งเสริมการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์

Source: Global Market Insights Inc.
Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor & MEGA Tech