Manufacturing Trends

เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ : แนวโน้มการใส่สมาร์ทวอทช์เพื่อสุขภาพ

Share with

เทคโนโลยีที่สวมใส่กำลังจะ disrupt อุตสาหกรรม ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่สมาร์ทวอทช์และอุปกรณ์สวมใส่อื่น ๆ จะช่วยให้ผู้คนติดตามสุขภาพได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง บทบาทและความสำคัญของอุปกรณ์เหล่านี้จะสูงขึ้นไปอีก หากได้รับการยอมรับจากแพทย์บุคลากรทางการแพทย์ และหากได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ว่ามีความปลอดภัยด้านข้อมูล ผลการศึกษาจาก Deloitte Global คาดการณ์ว่า อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพและสุขภาพของผู้บริโภคจำนวน 320 ล้านอุปกรณ์ ได้รับการจัดส่งจัดจำหน่ายไปยังทุกมุมโลกในปี 2022 ตัวเลขดังกล่าวน่าจะสูงถึงเกือบ 400 ล้านภายในปี 2024 เครื่อง เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ตัวเลขนี้จะทำให้ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพจำนวนมากวางใจและสบายใจที่จะใช้อุปกรณ์เหล่านี้

The global health wearables market is already big and expanding fast
Deloitte Insight | deloitte.com/insights

จากการสำรวจล่าสุดของ Deloitte’s Connectivity and Mobile Trends พบว่า 39% เป็นเจ้าของสมาร์ทวอทช์ การใช้งานในอดีตคือการช่วยดูแรงสุขภาพร่างกาย ลดน้ำหนัก พัฒนาสมรรถนะภาพของตนเอง ผู้บริโภคหันมาใช้สมาร์ทวอทช์เพื่อสุขภาพมากขึ้น ไม่ใช่เพราะการตรวจจับอัตราการวิ่ง แต่เป็นเพราะฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และแอปใหม่ๆ ที่ได้เปลี่ยนอุปกรณ์นี้ให้เป็นคลินิกสุขภาพส่วนตัว ขณะนี้การตรวจจับการเต้นหัวใจคือมาตรฐานของสมาร์ทวอทช์ บางรุ่นได้อนุมัติจาก FDA ให้ตรวจหาสิ่งผิดปกติ เช่น ภาวะหัวใจสั่น ซึ่งเป็นสาเหตุโรคหลอดเลือดสมอง อุปกรณ์เหล่านี้มีความสามารถมากขึ้น แนวโน้มที่ใช้อุปกรณ์เหล่านี้เพื่อจัดการกับโรคเรื้อรังและตรวจหาอาการของโรคร้ายแรงจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

People use smartwatches to monitor heart health, sleep quality, and chronic conditions.
Deloitte Insight | deloitte.com/insights

บทวิเคราะห์ Consumer Electronics ของ Statista คาดการณ์ว่าอุปกรณ์สวมใส่ในอเมริกาเหนือและเอเชียแปซิฟิกจะมีสัดส่วนประมาณ 70% ของอุปกรณ์สวมใส่ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2022 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) นั้นสูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะในประเทศจีน ไทย และเวียดนาม แนวโน้มระดับภูมิภาคเหล่านี้สะท้อนการพัฒนาของตลาดโลก คาดการณ์ได้ว่าจะสูงถึง 300 ล้านเครื่องภายในปี 2023

Number of connected wearable devices worldwide by region from 2015 to 2022
Number of connected wearable devices worldwide by region 2015-2022 © Statista 2022

บริษัทอุปกรณ์การแพทย์ทั่วโลกกำลังจะเข้าตลาด APAC เพื่อขยายธุรกิจ เพราะภูมิภาคนี้มีประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกใน 10 อันดับแรกถึง 7 ประเทศซึ่งรวมกันแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 60% ของประชากรโลก ด้วยจำนวน ด้วยตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าตลาดการดูแลสุขภาพในภูมิภาคนี้จะเติบโตอย่างมากในอนาคต

Growth in consumer healthcare expenditure (%), 2014 – 2023
The changing landscape of the medical devices industry in the APAC region, KPMG

การเติบโตของการใช้จ่ายรักษาพยาบาลใน APAC แซงหน้าการเติบโตของ GDP ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลของมาเลเซียและไทยที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่มาจากอัตราเงินเฟ้อด้านการรักษาพยาบาล ประกอบกับการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลกลางให้กับกระทรวงสาธารณสุขที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และแม้ว่ารัฐบาลอินเดียได้พยายามจัดสรรงบไปแล้วก็ตาม แต่ค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องจ่ายเองยังสูงอยู่ โดยพบว่าผู้ป่วยในอินเดียต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกือบสองเท่าของจำนวนเงินที่รัฐบาลสนับสนุน

Growth in healthcare spending per head (%), 2014 – 2023
The changing landscape of the medical devices industry in the APAC region, KPMG

คาดว่าตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ไทยจะมีมูลค่าถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 โดยมีอัตรา CAGR 7.5% ระหว่างปี 2018 ถึง 2022 ตามรายงานที่เผยแพร่โดย KPMG ตามตัวเลขที่มาจากรายงานของ Fitch Solutions พบว่าไทยคือประเทศที่มีผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์มากกว่า 500 ราย (SMEs และบริษัทข้ามชาติ) และกำลังแข่งขันอย่างดุเดือดกับสิงคโปร์และมาเลเซียเพื่อเป็นศูนย์กลางบริการด้านสุขภาพในอาเซียน นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในประเทศไทยคาดว่าจะสูงถึง 24.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 คิดเป็น 4.0% ของ GDP โดยมี CAGR 5.4% ระหว่างปี 2014 ถึง 2023

Healthcare spending (USD billion), 2014 – 2023
The changing landscape of the medical devices industry in the APAC region, KPMG

Article by: ASST.PROF. SUWAN JUNTIWASARAKIJ, PH.D.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *